วันพฤหัสบดีที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2551

Slipknot - All Hope is Gone

Photobucket



slipknot ชื่อนี้แทบจะไม่มีใคร ที่ไม่รู้จัก แม้ว่าจะเป็นคนฟังเพลงทั่วไป ก็ต้องเคยได้ยินชื่อนี้กันมาบ้างและรู้ว่ามันคือวงโฉดนรก ที่โฉดทั้งดนตรีและภาพลักษณ์ โดยมีสมาชิก หยั่งกับวินมอเตอร์ไซด์หน้าปากซอยที่ แม่งจะมารุมโทรมหญิงสาว ก็มิปาน แต่นั่นมันก็เมื่อครั้งนานมาแล้ว สมัยที่ออกอัลบั้มแรกมา ที่ในสมัยนั้นพวกมันยังโดน เรียกว่าเป็นวงนูเมทัลอยู่เลย มาวันนี้วันที่กระแกดนตรีนูเมทัลถูกพัดไป และเมทัลคอร์ตายแล้ว แต่พวกมันก็ยังเหลือรอดอยู่ โดยไม่ถูกต้นสังกัดถีบส่งออกมา มันหมายความว่าอย่างไร ถ้าพูดให้ชัดๆเลย ก็คือ slipknot เป็นวงที่มีเอกลักษณ์ทางดนตรี มากกว่าขายภาพลักษณ์หากินไปวันๆ อย่างที่ใครหลายๆคนเคยปรามาสไว้

หลังจากอัลบั้มที่แล้วVol. 3: (The Subliminal Verses) ที่พวกมัน ฉีกตัวออกไปเริ่มทดลองใส่เสียงเมโลดี้มากขี้น ก็โดนแฟนบางกลุ่มหาว่า หันเข้าหาตลาด แต่ส่วนตัวผมไม่คิดเช่นนั้น ถ้าใครก็ตามที่มีโอกาศได้ฟังงาน อัลบั้มได้ดิน Mate.Feed.Kill.Repeat ซึ่งเป็นอัลบั้มที่ยังไม่ใช่ไลน์อัพปัจจุบัน เนื้องานนั้นก็ทำให้ผมพอจะเข้าใจได้ว่า slipknot ไม่ใช่วง rap-metalหรือNu-metalมาตั้งแต่แรกอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ แต่เป็นวงที่นำเสนอดนตรีเมทัลโดยการทดลองผสมดนตรีแนวอื่นมากมาย ตั้งแต่ Industrial, funk , experimental , rap ซึ่งพอมาออกอัลบั้มแรก ก็ถูกขัดเกลาให้มีความชัดเจนโดย Ross Robinson ฉะนั้นการที่เราจะบอกว่า อัลบั้มที่แล้ว พวกมันเดินเข้าหาตลาด คงจะเป็นการอคติเกินไปกับวง จากที่ทางวงให้สัมภาษณ์ไว้ ก็บอกว่า งานชุดแรกมันคือการขัดเกลาซาวด์ของวงสมัยใต้ดินให้ชัดเจน IOWA คืออัลบั้มที่เราทำงานกันแบบโคตรเกลียดขี้หน้ากันเอง ส่วน Vol. 3 คืองานที่เราทั้งหมดร่วมกันทำและเปิดใจกลับไปสู่ดนตรีที่เป็นรากของเรา ส่วนอัลบั้มล่าสุดถ้าให้ผมบอกก็คงจะเป็นการนำทุกสิ่งทุกอย่างที่ทางวงทำมารวมกัน
ตั้งแต่ความติดหูของอัลบั้มแรก ความหนักหน่วงของอัลบั้ม IOWA การทดลองต่างๆในอัลบั้มที่แล้ว ผลลัพทำให้อัลบั้มนี้กลายเป็นอัลบั้มกลับมาอย่างสมศักศรีดิ์จริงๆ (แม้จะไม่ใช่อัลบั้มที่ดีที่สุด)

ตั้งแต่อินโทร ที่เป็นเสียงบ่นของ Corey บวกกับการโซโล่กลองของ Joeyนำเข้าเพลงแรก Gematria (The Killing Name)
ที่ซับซ้อนและหนักหน่วง ได้ใจไปเต็มๆ แถมอัลบั้มนี้ยังไม่มีการกั๊กโซโล่ MickกับJim โซโล่กันไฟแลบ เนื้อหาก็ตอกหน้าผู้นำประเทศตัวเองอย่างแสบสัน เพลงต่อมา Sulfurที่กลองรัวเป็นพรืดกับริฟปั่นกระจาย เสียงร้องกึ่งแร๊ป
แต่ท่อนฮุคติดหู เยี่ยมเลย ซิงเกิลแรกของอัลบั้ม Psychosocialที่ยอดเยี่ยมมาก อ้อ ใครที่ได้ฟังแบบซิงเกิ้ล แล้วบอกว่าเพลงนี้ธรรมดาขอบอกว่าคิดผิด ถ้าได้ฟังในเวอร์ชั่นอัลบั้มเต็มนี้ จะได้ยินการออกแบบท่อนบริดจ์ที่เท่มากกก โดยการร้องประสานกับผสมท่อนโยกแบบนูเมทัลในอัลบั้มแรก เป็นแทร็คที่ไม่หนักแต่ก็โชว์ของกันเต็มที่ ต่อมาที่ เพลงจังหวะกลางๆ Dead Memories ที่ผมนึกว่าเพลงของ Stone Sour(ฮ่า) ท่อนฮุคติดหูมาก แต่ก็ยังพอมีลูกเล่นของกีต้าร์ให้และกลองให้พอรู้ว่าคนละวงนะ (ฮ่า) Gehenna เพลงที่นำเอาบรรยากาศหลอนจิตจากเสียงเพอคัสชั่นและซินธ์ในอัลบั้มที่แล้ว แอบมีท่อนที่ทำผมหัวทิ่มด้วย อยากรู้เป้นไงต้องลองฟัง Vendetta กับ Butcher's Hook เป็นเพลงจังหวะกลางที่ไม่น่าตื่นเต้นซักเท่าไหร่ กลับมามันกันที่ This Cold Black ดนตรีควบทะยาน ริฟหนักหน่วง มีจุดเด่นที่เสียงร้องกันหลาย คนหลายเสียงมาก (ผ่านเอฟเฟกก็มี)
Snuffเพลงช้าเพลงเดียวและเพลงแรกที่พูดถึงความรัก แต่ก็ยังแฝงด้วยชั้นเชิง แต่ฟังไปฟังมาก้นึกว่า Stone Sourอยู่ดี
จบที่ไตเติลแทรก All Hope Is Gone ที่ทั้งหนักทั้งมัน ทั้งเร็วทั้งฮุค


โดยรวมดนตรีในอัลบั้มนี้อาจจะไม่หนักและดิบมากนัก แต่ให้ความซับซ้อน และติดหู โดยเฉพาะท่อนฮุค ของอัลบั้มนี้ ผมถือว่าเป็นไฮไลด์เลย ต้องบอกว่าไม่เสียงแรงที่วงนี้มันพวกเยอะ กับเสียงร้องคอรัสที่ติดหูและทรงพลังในเวลาเดียวกัน การมิกซ์เสียงอัลบั้มนี้ก็ดีมาก ฟังแล้วเคลียร์ ชัดเจน ส่วนเนื้อหาก็ตามสไตล์ของวงกับการก่นด่าทุกสิ่งในโลกที่เป็นตัวการแห่งความเลวร้าย แต่ก็มีข้อเสียบ้างคือนับวัน slipknotและStone Sour ยิ่งมีความไกล้เคียงกันมากขึ้นเรื่อยๆ อัลบั้มนี้อาจจะไม่ใช่งานที่เยี่ยมที่สุด แต่ก็ไม่ใช่งานที่แย่ที่สุดแน่ๆ ส่วนใครที่อยากซื้อแต่ไม่กล้า ก็ลองฟังเพลงตามยูทูปก่อนได้คับ เพราะอัลบั้มนี้ ไม่โหดแบบยุคแรกๆแล้ว แต่ก็โตขึ้นตามวุฒิภาวะของวง


ลองฟัง ซิงเกิ้ลแรกของวง

ไม่มีความคิดเห็น: